ทีมกรุ๊ปประเมิน24พ.ย.เป็นต้นไปสถานการณ์น้ำท่วมกรุงคลี่คลาย หลังน้ำเหนือลดลง แผนการระบายน้ำทั้งตะวันออก-ตะวันตกเริ่มได้ผลดี
นายชวลิต จันทรรัตน์ วิศวกรแหล่งน้ำ บริษัททีมกรุ๊ป กล่าวในรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ โดยประเมินว่าพื้นที่ กรุงเทพฯทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตกจะคลี่คลายจากสถานการณ์น้ำท่วมภายใน 2 สัปดาห์ หรือประมาณวันที่ 24 พ.ย.เป็นต้นไป
ทั้งนี้เนื่องจากปริมาณน้ำเหนือได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยพื้นที่หลายจังหวัดตอนเหนือของกรุงเทพฯมีน้ำลดลงทุกวัน เช่น จ.อยุธยามีน้ำลดลง 3 ซม.ต่อวัน รวมทั้งหลังช่วงเทศกาลลอยกระทงไปแล้วจะเป็นช่วงน้ำทะเลลง ซึ่งช่วยให้แม่น้ำสายหลักต่างๆ เช่นแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำท่าจีนสามารถระบายน้ำได้เร็วยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ในการระบายน้ำในหลายจุดเริ่มดำเนินการได้ผลดีช่วยให้น้ำไม่เข้ามาเติมในพื้นที่ต่างๆเพิ่ม
นายชวลิตกล่าวว่า น้ำที่เข้ามาทางฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ ซึ่งมีแนวกระสอบทรายบิ๊กแบ็คยาว 6 กม.กั้นอยู่บริเวณคลองรังสิตประยูรศักดิ์ได้ผลดีสามารถชะลอน้ำให้ลดลงและแบ่งน้ำไปยังคลองหกวาเพื่อผันน้ำออกไปทางตะวันออก ขณะที่น้ำบางส่วนที่ไหลผ่านแนวบิ๊กแบ็คในพื้นที่ที่ประชาชนไม่ยินยอมให้กั้นก็เหลือเพียง 40% จากมวลน้ำทั้งหมดทำให้ภาระน้ำในคลองบางซื่อลดลง และสามารถสูบออกแม่น้ำเจ้าพระยาได้ทัน
"ขณะนี้ในพื้นที่ตอนใต้ของเขตบางกะปิลงมา เช่น ถ.รามคำแหงด้านหน้า มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซอยเลขคู่บนถนนลาดพร้าวจะยังอุ่นใจได้ว่าไม่มีน้ำท่วมสูง ซึ่งอาจจะมีน้ำเอ่อบ้างก็เพียงแค่เฉอะแฉะแต่จะไม่ท่วมสูง โดยผ่านวันที่ 15 พ.ย.ที่น้ำทะเลไม่หนุนสูงไปแล้วน้ำจะยิ่งระบายผ่านคลองแสนแสบไปยังคลองประเวศบุรีรมย์ ซึ่งจะดึงน้ำไปที่คลองพระโขนงเพื่อสูบออกได้เร็วขึ้น"นายชวลิตกล่าว
ขณะนี้เชื่อว่า มวลน้ำที่ไหลเข้ามาตาม ถ.วิภาวดีรังสิต และ ถ.พหลโยธิน รวมทั้ง ถ.รัชดาภิเษก ที่ไปหยุดอยู่ที่ริมคลองบางซื่อนั้น เป็นจุดสูงสุดและจะไม่รุกล้ำไปไกลกว่านี้แล้ว โดยน้ำเหล่านี้จะไหลลงคลองบางซื่อและถูกสูบออกโดยเครื่องสูบน้ำ 17 เครื่องเพื่อออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา
อย่างไรก็ตามหากเกิดการทำลายคันกระสอบทรายบิ๊กแบ็คก็จะส่งผลให้สถานการณ์น้ำท่วมบนถ.วิภาวดี รังสิต ถ.พพหลโยธิน และ ถ.รัชดาภิเษก มีการท่วมขังยยาวนานขึ้นกว่าที่ประเมินเอาไว้
ด้านฝั่งตะวันตกคาดว่าช่วงสุดสัปดาห์นี้มวลน้ำจะไหลถ.พระราม2 ซึ่งไม่อยากให้มีการกดดันน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้ถนนถูกกัดเซาะ โดยควรปล่อยให้น้ำไหลข้ามบางๆ สูง 20-30 ซม. เพื่อข้ามไปยังคลองสนามไชย และคลองมหาชัย เข้าสู่แก้มลิงตามแนวพระราชดำริและระบายลงทะเลต่อไป
ขณะที่ กลุ่มพื้นที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น เขตบางพลัด จะเริ่มแห้งต่อเนื่องเพราะสามารถปล่อยน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยาได้ ส่วนพื้นที่ จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี น้ำจะลดลงเนื่องจากน้ำได้แบ่งลงที่แม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองสาขาต่างๆ
ส่วนตอนล่างของพื้นที่ฝั่งตะวันตก เช่น ถ.เพชรเกษม เขตบางแค เขตภาษีเจริญ เขตบางบอน เมื่อระดับน้ำเหนือคลองมหาสวัสดิ์ลดลง ทางรัฐบาลก็จะเข้าไปอุดรอยรั่วตามประตูระบายน้ำต่างๆ เช่น ประตูระบายน้ำมหาสวัสดิ์ ประตูฉิมพลี และ ประตูทวีวัฒนา ซึ่งเมื่อซ่อมแซมรอยรั่วเหล่านี้เสร็จจะทำให้น้ำไม่เข้ามาเติมในพื้นที่เพิ่ม
ขณะเดียวกันกรมชลประทานได้มีการเพิ่มเครื่องสูบน้ำบริเวณคลองภาษีเจริญเพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำท่าจีนแล้ว ขณะที่คลองบางกอกใหญ่ก็จะรับน้ำและเร่งระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเช่นเดียวกัน โดยหากดำเนินตามแผนเหล่านี้คาดว่า 2 สัปดาห์น้ำน่าจะลดลง
ทั้งนี้ทีมกรุ๊ปได้อัพเดทพื้นที่เสี่ยงภัยล่าสุดพบว่า ในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯตั้งแต่รังสิต ดอนเมือง สายไหม แจ้งวัฒนะ งามวงศ์วาน เชื่อมโยงกับถนนวิภาวดี-รังสิต ลาดพร้าว รามอินทรา นวมินทร์ ถนนประเสริฐมนูกิจ พหลโยธิน รัชดาภิเษก มีความเสี่ยงสูงสุด (สีแดง)
ขณะที่ พื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา มีพื้นเสี่ยงสูงสุดในวงกว้าง มาถึงถนนพระรามสอง อ.นครชัยศรี อ.สามพราน รวมถึงเชื่อมโยงมาถึง ถนนพระรามสอง
***ดาวน์โหลดแผนที่ขนาดใหญ่ได้ที่นี่***
http://depot12.tempf.com/file/3f5a4cb495a1a38e6bfc14ca980e42a1/4ebbac9a/dev8/0/001/714/0001714362.fid/teamgroup-111109.jpg?image/jpeg
ที่มา....http://www.posttoday.com/%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%A1.-%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84/%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%A1./121062/%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%8A%E0%B8%9B%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%9924%E0%B8%9E-%E0%B8%A2-%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%AF%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%95
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น