สื่อการเมือง เลือกข้าง เลือกสี แบบมีเหตุผล...ที่ไม่สนับสนุนความรุนแรง ตามสไตล์ของ...ผู้ดูแลบล็อก **ได้เนื้อหาสาระ ไปทางคลิปภาพ+เสียง มากกว่าข้อความยาวๆ (อ่านแล้วง่วง) ผสมกับความบันเทิง ทำให้ไม่เครียดหรือหนัก จนเกินไป** ----------หมายเหตุ..คลิปบันเทิง Entertainment เลื่อนลงไปล่างสุด ของบล็อกเลยค่ะ----------
วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2554
วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554
วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2554
วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2554
วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2554
รูปภาพบน ปฏิทิน 2555 สาวจีนสุดเอ็กซ์ ตบเท้าต้อนรับ วันปีใหม่
รูป พาเหรดสาวจีนสุดเอ็กซ์ ตบเท้าต้อนรับ วันปีใหม่ บน ปฏิทิน 2555 รูปสาวจีน พาเหรดสาวจีน สาวสวยคนดัง พันธุ์เอ็กซ์ทั้งหลาย ที่มีรูปเอ็กซ์ๆ เซ็กซี่ๆ เนื้อนมไข่มาให้ได้ดูกันตลอดทั้งปี คราวนี้ขอมามอบ คำอวยพรปีใหม่ วันปีใหม่ แบบเซ็กซี่ๆ บน ปฏิทิน 2555 ปฏิทิน 2012 ที่รับรองว่า สาวกสาวจีนทั่วฟ้าเมืองไทย ต้องสะท้านในความสวย เซ็กซี่ของพวกเธอแน่นอน
ที่มา... http://play.kapook.com/photo/show-121715
วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2554
วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554
วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554
เฉลิมเตรียมปราบเว็บหมิ่นสถาบัน@TNN24
"อนุดิษฐ์" ลั่น 3 เดือนปิดเว็บหมิ่น 6 หมื่นเว็บ วอนฝ่ายตรงข้ามหยุดวิจารณ์ได้แล้ว
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)
เปิดเผย กรณีโจมตีจัดการเว๊ปหมิ่นล่าช้าว่า อันที่จริงแล้วข้าราชการที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องได้ทำงานอย่างหนักมาโดยตลอดทุกรัฐบาล เพียงแต่รัฐบาลนี้ไม่มีนโยบายในการประชาสัมพันธ์เรื่องดังกล่าว เพราะการพูดซ้ำในเรื่องดังกล่าวอาจจะผิดกฎหมายด้วย ตลอดจนนักวิชาการจำนวนมากก็ให้คำแนะนำในเรื่องนี้ว่าหากมีการประชาสัมพันธ์ในการปราบปราม อาจทำให้การกระทำดังกล่าวรุนแรงขึ้นได้
จึงอยากให้ฝ่ายตรงข้ามหยุดการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ เพราะถือเป็นการดูถูกข้าราชการที่ทำงานอย่างหนักและมีความจงรักภักดีต่อสถาบัน ซึ่งทุกคนควรช่วยกันหยุดพฤติกรรมของผู้ที่แอบอ้างสถาบันเพื่อไปทำร้ายคนอื่นและเป็นประโยชน์ต่อตัวเองด้วย
ยืนยันว่ารัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะการจัดการกับการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมาโดยตลอด....
อ่านต่อ....
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1323590492&grpid&catid=01&subcatid=0100
วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2554
วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2554
112 กับความหมายในวงเล็บ (ที่เงียบจนแสบแก้วหู)
112 กับความหมายในวงเล็บ (ที่เงียบจนแสบแก้วหู)
บทสัมภาษณ์ วรเจตน์ ภาคีรัตน์
นิตยสาร Way กรกฎาคม 2554
Interview / Vol.43
Text: สันติสุข กาญจนประกร / อภิรดา มีเดช
Photo: อนุช ยนตมุติ
“สถาบันพระมหากษัตริย์ต้องอนุวัตให้สอดคล้องกับระบอบการปกครอง เราอยู่ในระบอบการปกครองประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญก็บัญญัติไว้ชัดเจนว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย”
“มาตรา 112 ไม่สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตย เพราะกำหนดโทษเกินสมควรกว่าเหตุ คุณเปิดโอกาสให้ใช้ตัวกฎหมายเป็นเครื่องมือทางการเมือง”
“ใครที่เสนอเรื่อง 112 เป็นพวกมีปัญหากับสถาบัน เป็นพวกไม่เอาเจ้า ล้มเจ้า ความคิดอย่างนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชน มันถูกสร้างขึ้นจากฝ่ายอำนาจรัฐ รัฐพยายามประดิษฐ์ถ้อยคำ เป็น ‘ความผิดฐานล้มเจ้า’ ซึ่งมันไม่มีใน 112”
http://www.enlightened-jurists.com/page/253
บทสัมภาษณ์ วรเจตน์ ภาคีรัตน์
นิตยสาร Way กรกฎาคม 2554
Interview / Vol.43
Text: สันติสุข กาญจนประกร / อภิรดา มีเดช
Photo: อนุช ยนตมุติ
“สถาบันพระมหากษัตริย์ต้องอนุวัตให้สอดคล้องกับระบอบการปกครอง เราอยู่ในระบอบการปกครองประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญก็บัญญัติไว้ชัดเจนว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย”
“มาตรา 112 ไม่สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตย เพราะกำหนดโทษเกินสมควรกว่าเหตุ คุณเปิดโอกาสให้ใช้ตัวกฎหมายเป็นเครื่องมือทางการเมือง”
“ใครที่เสนอเรื่อง 112 เป็นพวกมีปัญหากับสถาบัน เป็นพวกไม่เอาเจ้า ล้มเจ้า ความคิดอย่างนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชน มันถูกสร้างขึ้นจากฝ่ายอำนาจรัฐ รัฐพยายามประดิษฐ์ถ้อยคำ เป็น ‘ความผิดฐานล้มเจ้า’ ซึ่งมันไม่มีใน 112”
http://www.enlightened-jurists.com/page/253
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล เรียกร้องแนวทางสู้คดีอากง
ฤๅจะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว คดีอากง SMS: ภาคนิติรัฐ
http://www.siamintelligence.com/thin-end-of-the-wedge-on-ah-gong-case-rechtsstaat-part/?utm_source=twitterfeed&utm_medium=twitter
วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2554
ข้อด้อยของยิ่งลักษณ์
โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน
(ที่มา คอลัมน์สถานีคิดเลขที่ 12 หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 2 ธันวาคม 2554)
คุณสมบัติที่เป็นด้านตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ระหว่างนายกฯหญิงยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับอดีตนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คือ การพูด ในขณะที่นายกฯคนปัจจุบันนั้น กำลังโดนบางฝ่าย ไล่บดขยี้ในเรื่องการพูด ทั้งพูดไทยและพูดอังกฤษ ผิดไปหมด
พูดไทยก็ว่าไม่ไพเราะ พูดผิดพูดถูก ไม่มีถ้อยคำคมคาย น้ำเสียงก็บ้านๆ ภาษาอังกฤษก็พูดไม่ได้ใจความ
ความเป็นนายกฯในระบอบประชาธิปไตย ย่อมสามารถโดนแตะต้อง วิพากษ์วิจารณ์กันได้ เป็นเรื่องปกติธรรมดา
ถ้าสังคมส่วนใหญ่เห็นด้วย เรื่องนี้ก็คงจุดติดทันที
เหมือนกับกรณีอดีตนายกฯอภิสิทธิ์ พูดเก่ง พูดเพราะ หน้าตาหล่อเหลา
พอ จิตรา คชเดช ผู้นำแรงงานหญิงชูป้าย "ดีแต่พูด"
เปรี้ยงเดียวติดกระแสสังคม
เพราะผู้คนส่วนใหญ่รู้สึกเห็นด้วยอย่างยิ่ง
ทั้งที่ "ดีแต่พูด" เป็นคำที่ใช้กันอยู่ทั่วไป ไม่ได้แปลกใหม่อะไร
แต่เมื่องัดออกมาใช้ ถูกคน ถูกที่ ถูกเวลา กลายเป็นเกรียวกราว ขานรับกันไปทั้งบ้านทั้งเมือง
ขณะที่นายกฯหญิง ซึ่งโดนไล่บี้เรื่องการพูดนั้น อาจจะยังไม่ถูกที่ถูกเวลา เลยทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ได้รู้สึกไปด้วยว่าจะเป็นเรื่องสลักสำคัญอะไร
แล้วความที่พูดไม่เก่งด้วยกระมัง เราจึงไม่เห็นนายกฯคนนี้ พูดจาให้สัมภาษณ์แบบตื่นเช้าขึ้นมาก็ต้องกวัดแกว่งปาก ตอบโต้ทุกคน ทุกคำพูด สวนกันทุกเม็ด
อันนี้แหละที่ข้อด้อยกลายเป็นข้อดี
ประชาชนคนไทยเลยรู้สึกชอบใจ ที่ผู้นำการเมือง ใช้เวลาไปกับการทำงาน มากกว่าการ จิก กัด แขวะ เหวี่ยง
พึงพอใจกันมาก ที่คนระดับนายกฯไม่ต้องมาเสียเวลากับการคอยเชือดเฉือนคารมใครต่อใครทุกวี่วัน
รวมทั้งอาจเป็นคำตอบด้วยว่า ทำไมข้อดีเด่นของอดีตนายกฯอภิสิทธิ์ จึงกลายเป็นข้อร้าย
คำว่าดีแต่พูด ได้สั่นคลอนภาพพจน์อันเลอเลิศจนกลายเป็นรุ่งริ่ง
จนกลายเป็นบทสรุปทางการเมืองในช่วงนั้นว่า จุดแข็งที่สุดของประชาธิปัตย์คือการพูดการอภิปราย แล้ววันนี้ได้กลายเป็นจุดทำลายประชาธิปัตย์จนยากจะเยียวยาได้
เรื่องการพูดจา ยังได้ช่วยให้ประชาชนได้ทบทวนสถานะของผู้นำการเมืองไทยไปพร้อมๆ กันด้วย
เราต้องการผู้นำพิเศษหรือผู้นำปกติธรรมดา
ขณะที่นายกฯหญิงนั้น มีความเป็นผู้คนปกติธรรมดา มีผิดมีพลาดมีเฟอะฟะ แต่ถ้ายังทำงานได้ ยังนำพารัฐบาลบริหารประเทศชาติต่อไปได้ก็ว่ากันไป ถ้าไม่ไหวเมื่อไร ต้องลาออก ต้องยุบสภา ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจตามกรอบกติกาประชาธิปไตย
น่าจะดีกว่าการมีผู้นำดูดีฉลาดอัจฉริยะ พูดเก่งกาจ แล้วยกกันจนเกินความเป็นคนปกติ แถมมีอำนาจพิเศษอุ้มชูอยู่อีก ยิ่งไปกันใหญ่
สุดท้ายในความเลอเลิศอันแตะต้องไม่ได้นั้น
อาจกำลังได้รับการเปิดความจริงอีกด้าน โดย "ไอ้โก้" ผู้นำทีมปฏิบัติการอันนำไปสู่การขุดคุ้ยทุจริตโครงการอภิมหาโปรเจ็กต์ของรัฐบาลยุคหนึ่ง
ไปจนถึงได้รับการเปิดเผยความจริงหลังฉากเลือด ด้วยคำให้การต่อพนักงานสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทหารผู้ปฏิบัติตามคำสั่ง
ในเหตุการณ์ปี 2553
ที่มา....http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1322830000&grpid&catid=02&subcatid=0207
คำ ผกา: เปลือยกาย เปิดใจ ไม่เกลียดชัง
ภาพถ่ายโดย กรกฤช เจียรพินิจนันท์
คำ ผกา: เปลือยกาย เปิดใจ ไม่เกลียดชัง
Fri, 2011-12-02 18:18
‘คำ ผกา’ เปลือย(หน้า)อก และ(หน้า)ใจ ส่งข้อความเรียกร้องปล่อยตัวอากง ชี้สังคมไทยต้องก้าวข้ามความกลัว ถอดทิ้งอคติ และสำรวจจิตใจตัวเองในฐานะเพื่อนมนุษย์
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลายคนอาจได้เห็นแคมเปญ ‘ฝ่ามืออากง’ กันไปบ้างแล้วในเฟซบุ๊ก การรณรงค์ดังกล่าวเริ่มต้นโดยปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิจัยจากสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ประเทศสิงคโปร์ เพื่อเรียกร้องอิสรภาพให้แก่นายอำพล (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ถูกตัดสินจำคุก 20 ปีด้วยการถูกกล่าวหาว่าส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือที่มีเนื้อหาหมิ่นเบื้องสูงจำนวน 4 ข้อความไปยังเลขาส่วนตัวของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ(ขณะนั้น)
แคมเปญดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้ใช้เฟซบุ๊กในไทยและต่างประเทศอย่างรวดเร็ว โดยมีคนส่งภาพตัวเองที่มีข้อความ “อากง” เขียนบนฝ่ามือมาร่วมในการรณรงค์ดังกล่าว 150 คนในเวลาเพียง 2 วัน หนึ่งในนั้น มีรูปหญิงสาวเปลือยพร้อมข้อความ “No Hatre for Naked Heart” หราอยู่บนหน้าอกหน้าใจ พร้อมคำว่า “อากง” บนฝ่ามือ จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากลักขณา ปันวิชัย หรือนักเขียนชื่อดังในนาม “คำ ผกา”…
เธอเล่าถึง “Art project” ชิ้นนี้ ซึ่งเป็นภาพเปลือยของเธอพร้อมข้อความ “No Hatre for Naked Heart” เขียนด้วยน้ำหมึกดำอยู่บนอกสองข้างของเธอว่า อยากจะสื่อออกไปยังสังคมไทย ให้ถอดอคติส่วนตนออกไปจากจิตใจ และลองเปลือยใจเพื่อสำรวจถึงความมีมนุษยธรรมในฐานะเพื่อนมนุษย์ และตั้งคำถามดูว่าทำไมกรณีของอากงจึงเกิดขึ้นได้ มันเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ไหม และมันมากเกินไปหรือเปล่า
“แทนที่จะหลบอยู่หลังตู้เย็น หลบอยู่หลังหน้าจอคอมพ์ อย่างน้อยเราก็ได้ทำอะไรซักอย่าง ที่จะก้าวข้ามความกลัวนั้นไป และส่งข้อความออกไปยังสังคม...ให้สังคมไทยนั้นก้าวพ้นความกลัวไปด้วยกัน” เธอกล่าว
‘คำ ผกา’ กล่าวว่า งานชิ้นนี้ เปรียบเสมือนงานศิลปะชิ้นหนึ่งที่ใช้ร่างกายประท้วงต่อความไม่เป็นธรรมในสังคม ซึ่งการกล้าเปิดกาย-ใจ และการกล้าเปิดเผยตัวตนนี่เอง ที่เป็นการเผชิญหน้าและเอาชนะความกลัวได้อย่างแท้จริง
ที่มา.... http://www.prachatai3.info/journal/2011/12/38141?utm_source=feedburner&utm_medium=feed&utm_campaign=Feed%3A+prachatai+%28%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97+Prachatai.com%29
อีกรูป ตามมาติดๆๆ
จาก http://www.facebook.com/profile.php?id=100003191651856
(อ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่ เว็บไซต์ประชาไท)
ประวิตร โรจนพฤกษ์ สัมภาษณ์ "ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์" นักรัฐศาสตร์ สถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาแห่งสิงคโปร์ ถึงที่มาและวัตถุประสงค์ของแคมเปญฝ่ามือ "อากง" ซึ่งกำลังได้รับการกล่าวขานถึงมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับในโลกเฟซบุ๊ก
อ่านต่อ.... http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1322831254&grpid=01&catid&subcatid
คำ ผกา: เปลือยกาย เปิดใจ ไม่เกลียดชัง
Fri, 2011-12-02 18:18
‘คำ ผกา’ เปลือย(หน้า)อก และ(หน้า)ใจ ส่งข้อความเรียกร้องปล่อยตัวอากง ชี้สังคมไทยต้องก้าวข้ามความกลัว ถอดทิ้งอคติ และสำรวจจิตใจตัวเองในฐานะเพื่อนมนุษย์
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลายคนอาจได้เห็นแคมเปญ ‘ฝ่ามืออากง’ กันไปบ้างแล้วในเฟซบุ๊ก การรณรงค์ดังกล่าวเริ่มต้นโดยปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิจัยจากสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ประเทศสิงคโปร์ เพื่อเรียกร้องอิสรภาพให้แก่นายอำพล (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ถูกตัดสินจำคุก 20 ปีด้วยการถูกกล่าวหาว่าส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือที่มีเนื้อหาหมิ่นเบื้องสูงจำนวน 4 ข้อความไปยังเลขาส่วนตัวของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ(ขณะนั้น)
แคมเปญดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้ใช้เฟซบุ๊กในไทยและต่างประเทศอย่างรวดเร็ว โดยมีคนส่งภาพตัวเองที่มีข้อความ “อากง” เขียนบนฝ่ามือมาร่วมในการรณรงค์ดังกล่าว 150 คนในเวลาเพียง 2 วัน หนึ่งในนั้น มีรูปหญิงสาวเปลือยพร้อมข้อความ “No Hatre for Naked Heart” หราอยู่บนหน้าอกหน้าใจ พร้อมคำว่า “อากง” บนฝ่ามือ จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากลักขณา ปันวิชัย หรือนักเขียนชื่อดังในนาม “คำ ผกา”…
เธอเล่าถึง “Art project” ชิ้นนี้ ซึ่งเป็นภาพเปลือยของเธอพร้อมข้อความ “No Hatre for Naked Heart” เขียนด้วยน้ำหมึกดำอยู่บนอกสองข้างของเธอว่า อยากจะสื่อออกไปยังสังคมไทย ให้ถอดอคติส่วนตนออกไปจากจิตใจ และลองเปลือยใจเพื่อสำรวจถึงความมีมนุษยธรรมในฐานะเพื่อนมนุษย์ และตั้งคำถามดูว่าทำไมกรณีของอากงจึงเกิดขึ้นได้ มันเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ไหม และมันมากเกินไปหรือเปล่า
“แทนที่จะหลบอยู่หลังตู้เย็น หลบอยู่หลังหน้าจอคอมพ์ อย่างน้อยเราก็ได้ทำอะไรซักอย่าง ที่จะก้าวข้ามความกลัวนั้นไป และส่งข้อความออกไปยังสังคม...ให้สังคมไทยนั้นก้าวพ้นความกลัวไปด้วยกัน” เธอกล่าว
‘คำ ผกา’ กล่าวว่า งานชิ้นนี้ เปรียบเสมือนงานศิลปะชิ้นหนึ่งที่ใช้ร่างกายประท้วงต่อความไม่เป็นธรรมในสังคม ซึ่งการกล้าเปิดกาย-ใจ และการกล้าเปิดเผยตัวตนนี่เอง ที่เป็นการเผชิญหน้าและเอาชนะความกลัวได้อย่างแท้จริง
ที่มา.... http://www.prachatai3.info/journal/2011/12/38141?utm_source=feedburner&utm_medium=feed&utm_campaign=Feed%3A+prachatai+%28%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97+Prachatai.com%29
อีกรูป ตามมาติดๆๆ
จาก http://www.facebook.com/profile.php?id=100003191651856
(อ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่ เว็บไซต์ประชาไท)
ประวิตร โรจนพฤกษ์ สัมภาษณ์ "ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์" นักรัฐศาสตร์ สถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาแห่งสิงคโปร์ ถึงที่มาและวัตถุประสงค์ของแคมเปญฝ่ามือ "อากง" ซึ่งกำลังได้รับการกล่าวขานถึงมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับในโลกเฟซบุ๊ก
อ่านต่อ.... http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1322831254&grpid=01&catid&subcatid
วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2554
แนวโน้ม ปรับ ครม.รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ยังมองไม่เห็นตอนนี้
เสือซ่อนเล็บ
"เสือซ่อนเล็บ"
โหลดโลด มติชนสุดสัปดาห์ 2-8 ธค 54
108 หน้า PDF ไฟล์ 93.81 MB
http://www.mediafire.com/?00iikzxpcpj0006
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)